Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

2 พงศ์กษัตริย์ (บทเรียนที่ 5)

ผิดกลับถูก ถูกกลับผิด!

พระธรรม        2พงศ์กษัตริย์ 5:1-27

อ้างอิง               1พกษ.20:7;5:5,16,20-22,26;2พกษ.6:21-23,21;7:2;13:20;19:14;24:2

บทนำ           น่าแปลกใจที่บางครั้งคนบางคนที่เริ่มต้นประพฤติตัวไม่ถูกต้องกลับกลับใจและประพฤติตนเป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า ในขณะที่คน(ของพระจ้า)บางคนที่เริ่มต้นปรนนิบัติพระเจ้าประหนึ่งคนที่น่าเชื่อถือ แต่กลับปล่อยให้ความโลภหรือเนื้อหนังครอบงำความคิดจิตใจทำให้เสียคนในบั้นปลายและลูกหลานต้องได้รับทุกข์ภัยโดยไม่สมควร!

บทเรียน

5:1 “นาอามาน​ผู้​บัญชา​การ​กองทัพ​ของ​พระราชา​แห่ง​ซีเรีย เป็น​คน​สำคัญ​มาก​ของ​พระราชา เป็น​คน​มี​เกียรติ เพราะ‌ว่า​พระยาห์เวห์​ประทาน​ชัยชนะ​แก่​ซีเรีย​โดย​ท่าน​นี้ ท่าน​เป็น​นักรบ​กล้าหาญ​ด้วย แต่​ท่าน​เป็น​โรค​เรื้อน”

     ( Naaman, commander of the army of the king of Syria, was a great man with his master and in  high favor, because by him the Lord had given victory to Syria. He was a mighty man of valor, but

     he was a leper. )

5:2 “กอง​โจม​ตี​ของ​คน​ซีเรีย​ได้​ออก​ไป และ​ได้​จับ​เด็กหญิง​คน​หนึ่ง​จาก​แผ่นดิน​อิสราเอล และ​เธอ​มา​รับ​ใช้​ภรรยา​ของ​นาอามาน”

      (Now the Syrians on one of their raids had carried off a little girl from the land of Israel, and she  worked in the service of Naaman’s wife. )

5:3 “เธอ​ได้​เรียน​นาย​ผู้หญิง​ของ​เธอ​ว่า “เพียง​แค่​นาย​ผู้ชาย​ไป​อยู่​กับ​ผู้​เผย​พระวจนะ​ซึ่ง​อยู่​ใน​ สะมาเรีย แล้ว​ท่าน​จะ​ได้​รักษา​โรค​เรื้อน​ของ​เจ้านาย​เสีย​ให้​หาย”

     (She said to her mistress, “Would that my lord were with the prophet who is in Samaria! He would  cure him of his leprosy.” )

5:4 “นาอามาน​จึง​ไป​ทูล​เจ้านาย​ของ​ท่าน​ว่า สาวใช้​จาก​แผ่นดิน​อิสราเอล​พูด​ว่า​อย่างนั้น”

      (So Naaman went in and told his lord, “Thus and so spoke the girl from the land of Israel.” )

5:5 “พระราชา​แห่ง​ซีเรีย​ตรัส​ว่า “จง​ไป​เถิด เรา​จะ​ส่งสาร​ไป​ยัง​พระราชา​แห่ง​อิสราเอล” แล้ว​ท่าน​ก็​ไป นำ​เงิน 10   ตะลันต์ ทองคำ 6,000 เชเขล และ​เสื้อ​เที่ยว​งาน 10 ชุด​ไป​ด้วย”

       (And the king of Syria said, “Go now, and I will send a letter to the king of Israel.” So he went,  taking with him ten talents of silver, six thousand shekels of gold, and ten changes of clothing. )

5:6 “และ​ท่าน​ก็​นำ​สาร​ไป​ยัง​พระราชา​แห่ง​อิสราเอล มี​ใจความ​ว่า “เมื่อ​สาร​นี้​มา​ถึง​ท่าน ขอ​ท่าน​ทราบ​ด้วย​ว่า เรา​ส่ง​นาอามาน​ข้าราชการ​ของ​เรา​มา​ยัง​ท่าน เพื่อ​ให้​ท่าน​รักษา​เขา​ให้​หาย​จาก​โรค​เรื้อน

         (And he brought the letter to the king of Israel, which read, “When this letter reaches you, know  that I have sent to you Naaman my servant, that you may cure him of his leprosy.”)

5:7 “เมื่อ​พระราชา​แห่ง​อิสราเอล​ทรง​อ่าน​สาร​นั้น​แล้ว ก็​ฉีก​ฉลอง​พระองค์ ตรัส​ว่า “เรา​เป็น​พระเจ้า​ซึ่ง​จะ​ให้​ตาย​และ​ให้​มี​ชีวิต​หรือ? ชาย​คน​นี้​จึง​ส่ง​สาร​มา​ให้​เรา​รักษา​คน​หนึ่ง​ให้​หาย​จาก​โรค​เรื้อน คิด​ดู​ซิ​ว่า เขา​หา​เรื่อง​ทะเลาะ​กับเรา​อย่างไร

       (And when the king of Israel read the letter, he tore his clothes and said, “Am I God, to kill and to  make alive, that this man sends word to me to cure a man of his leprosy? Only consider, and see

         how he is seeking a quarrel with me.”)

5:8 “แต่​เมื่อ​เอลีชา​คน​ของ​พระเจ้า​ได้​ยิน​ว่า พระราชา​แห่ง​อิสราเอล​ฉีก​ฉลอง​พระองค์ จึง​ใช้​คน​ไป​ทูล​พระราชา​ว่า “ทำไม​ฝ่า​พระบาท​จึง​ฉีก​ฉลอง​พระองค์? ให้​เขา​มา​หา​ข้า​พระบาท​เถิด แล้ว​เขา​จะ​รู้​ว่า มี​ผู้​เผย​พระวจนะ​คน​หนึ่ง​ใน​ อิสราเอล

       (But when Elisha the man of God heard that the king of Israel had torn his clothes, he sent to the  king, saying, “Why have you torn your clothes? Let him come now to me, that he may know that

              there is a prophet in Israel.” )

5:9 “นาอามาน​จึง​มา​พร้อม​กับ​บรรดา​ม้า​และ​รถรบ​ของ​ท่าน มา​หยุด​อยู่​ที่​ประตู​บ้าน​ของ​เอลีชา”

             (So Naaman came with his horses and chariots and stood at the door of Elisha’s house. )

5:10 “เอลีชา ​ก็​ส่ง​ผู้​สื่อสาร​มา​เรียน​ท่าน​ว่า “จง​ไป​ชำระ​ตัว​ใน​แม่น้ำ​จอร์แดน​เจ็ด​ครั้ง และ​เนื้อ​ของ​ท่าน​จะ​กลับคืน​ อย่าง​เดิม และ​ท่าน​จะ​สะอาด

            (And Elisha sent a messenger to him, saying, “Go and wash in the Jordan seven times, and your   flesh shall be restored, and you shall be clean.” )

5:11 “แต่​นาอามาน​โกรธ​และ​ไป​เสีย บ่น​ว่า “ดูสิ ข้า​คิด​ว่า​เขา​จะ​ออก​มา​หา​ข้า​แน่ๆ และ​มา​ยืน​อยู่ และ​ออก​พระนาม​ ของ​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​เขา แล้ว​โบกมือ​เหนือ​ที่​นั้น ให้​โรค​เรื้อน​หาย”

            (But Naaman was angry and went away, saying, “Behold, I thought that he would surely come  out to me and stand and call upon the name of the Lord his God, and wave his hand over the

                place and cure the leper. )

5:12 “อาบานา ​และ​ฟารปาร์​แม่น้ำ​เมือง​ดามัสกัส ไม่​ดี​กว่า​บรรดา​ลำน้ำ​แห่ง​อิสราเอล​หรือ? ข้า​จะ​ชำระ​ตัว​ใน​แม่น้ำ​เหล่า​นั้น และ​จะ​สะอาด​ไม่ได้​หรือ?” ท่าน​จึง​หัน​หลัง​ไป​เสีย​ด้วย​ความ​เดือดดาล”

                (Are not Abana and Pharpar, the rivers of Damascus, better than all the waters of Israel? Could I not wash in them and be clean?” So he turned and went away in a rage. )

5:13 “แต่​พวก​ข้า​ราชการ​ของ​ท่าน​เข้า​มา​ใกล้ และ​ทัดทาน​ท่าน​ว่า “บิดา​ของ​ข้าพเจ้า ถ้า​ผู้​เผย​พระวจนะ​จะ​สั่ง​ให้​ท่าน​ทำ​สิ่ง​ใหญ่​อย่าง​หนึ่ง ท่าน​จะ​ไม่​ทำ​หรือ? ถ้า​เช่นนั้น​เมื่อ​ผู้​เผย​พระวจนะ​สั่ง​ท่าน​ว่า ‘จง​ไป​ล้าง และ​สะอาด​เถิด’ ท่าน​ยิ่ง​ควร​จะ​ทำ​สัก​เท่าไร?”

           (But his servants came near and said to him, “My father, it is a great word the prophet has  spoken to you; will you not do it? Has he actually said to you, ‘Wash, and be clean’?” )

5:14 “ท่าน​จึง​ลง​ไป​จุ่ม​ตัว​เจ็ด​ครั้ง​ใน​แม่น้ำ​จอร์แดน ตาม​ถ้อยคำ​ของ​คน​ของ​พระเจ้า และ​เนื้อ​ของ​ท่าน​ก็​กลับคืน​เป็น​ อย่าง​เนื้อ​ของ​เด็ก​เล็ก และ​ท่าน​ก็​สะอาด”

           (So he went down and dipped himself seven times in the Jordan, according to the word of the   man of God, and his flesh was restored like the flesh of a little child, and he was clean.)

5:15 “แล้ว​ท่าน​ก็​กลับ​มา​หา​คน​ของ​พระเจ้า ทั้ง​ตัว​ท่าน​และ​พรรคพวก​ของ​ท่าน และ​ท่าน​มา​ยืน​อยู่​ต่อ​หน้า​เอลีชา​และ​ กล่าว​ว่า “ดูสิ ข้าพเจ้า​รู้​แล้ว​ว่า​ไม่มี​พระเจ้า​อื่น​ใด ไม่​ว่า​ที่ไหน​ใน​โลก นอกจาก​ใน​อิสราเอล เพราะ​ฉะนั้น บัด​นี้​โปรด​รับ​ของ​กำนัล​จาก​ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน​เถิด

        (Then he returned to the man of God, he and all his company, and he came and stood before   him. And he said, “Behold, I know that there is no God in all the earth but in Israel; so accept now  

               a present from your servant.” )

5:16 “แต่​เอลีชา​ตอบ​ว่า “พระยาห์เวห์​ซึ่ง​เรา​ปรนนิบัติ ทรง​พระชนม์​อยู่​แน่​ฉัน​ใด เรา​จะ​ไม่​รับ​อะไร​เลย​ฉัน​นั้น” และ​ท่าน​ก็​ได้​คะยั้น​คะยอ​ให้​รับ​ไว้ แต่​เอลีชา​ปฏิเสธ”

                 (But he said, “As the Lord lives, before whom I stand, I will receive none.” And he urged him to  take it, but he refused. )

5:17 “นาอามาน ​จึง​กล่าว​ว่า “หาก​ท่าน​ไม่​รับ ก็​โปรด​ให้​ดิน​ที่​ล่อ​สอง​ตัว​จะ​บรรทุก​ได้​แก่​ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน​ เถิด เพราะ​ ตั้งแต่​นี้​ไป ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน​จะ​ไม่​ถวาย​เครื่อง​บูชา​เผา​ทั้ง​ตัว​หรือ​เครื่อง​ สัตวบูชา​แด่​พระ​อื่น แต่​จะ​ถวาย​แด่​พระยาห์เวห์​เท่านั้น”

            (Then Naaman said, “If not, please let there be given to your servant two mule loads of earth, for  from now on your servant will not offer burnt offering or sacrifice to any god but the Lord. )

5:18 “ใน​เรื่อง​นี้ ขอ​พระยาห์เวห์​ทรง​ให้​อภัย​ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน คือ​เมื่อ​พระ​ราชา​นาย​ของ​ข้าพเจ้า​เข้า​ไป​ใน​นิเวศ​ของ​พระริมโมน เพื่อ​จะ​นมัสการ​ที่​นั่น และ​ทรง​พิง​อยู่​ที่​มือ​ของ​ข้าพเจ้า และ​ข้าพเจ้า​จะ​ต้อง​โน้ม​ตัว​ลง​คำนับ​ใน​นิเวศ​ ของ​พระริมโมน เมื่อ​ข้าพเจ้า​โน้ม​ตัว​ลง​คำนับ​ใน​นิเวศ​ของ​พระริมโมน​นั้น ขอ​พระยาห์เวห์​ทรง​ให้​อภัย​ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน​ใน​กรณี​นี้

     (In this matter may the Lord pardon your servant: when my master goes into the house of Rimmon  to worship there, leaning on my arm, and I bow myself in the house of Rimmon, when I bow      myself in the house of Rimmon, the Lord pardon your servant in this matter.” )

5:19 “เอลีชา​จึง​ตอบ​ท่าน​ว่า “จง​ไป​โดย​สวัสดิภาพ​เถิด” แต่​เมื่อ​นาอามาน​ออก​ไป​ได้​ไม่​ไกล​นัก”

       (He said to him, “Go in peace.” But when Naaman had gone from him a short distance, )

5:20 “เกหะซี ​คนใช้​ของ​เอลีชา​คน​ของ​พระเจ้า​คิด​ว่า “ดูสิ นาย​ของ​ข้า​ไม่​ยอม​รับ​ของ​จาก​มือ​ของ​นาอามาน​คน​ซีเรีย​ที่​ เขา​นำมา พระยาห์เวห์​ทรง​พระชนม์​อยู่​แน่​ฉัน​ใด ข้า​จะ​วิ่ง​ตาม​ไป​เอา​มา​จาก​เขา​บ้าง​ฉัน​นั้น

     (Gehazi, the servant of Elisha the man of God, said, “See, my master has spared this Naaman the  Syrian, in not accepting from his hand what he brought. As the Lord lives, I will run after him and   get something from him.” )

5:21 “เกหะซี ​จึง​ตาม​นาอามาน​ไป และ​เมื่อ​นาอามาน​แล​เห็น​คน​วิ่ง​ตาม​ท่าน​มา ท่าน​ก็​ลง​จาก​รถรบ​ต้อนรับ​เขา​พูด​ว่า  “ทุก​อย่าง​เรียบร้อย​ดี​หรือ?”

     (So Gehazi followed Naaman. And when Naaman saw someone running after him, he got down  from the chariot to meet him and said, “Is all well?” )

5:22 “เขา​ตอบ​ว่า “เรียบร้อย​ดี นาย​ข้า​ได้​ใช้​ข้า​มา เรียน​ว่า ‘ชายหนุ่ม​สอง​คน​ใน​กลุ่ม​ผู้​เผย​พระวจนะ​จาก​แดน​เทือกเขา​เอฟราอิม ​มา​หา​เรา โปรด​ให้​เงิน​พวกเขา​สัก​หนึ่ง​ตะลันต์ และ​เสื้อ​เที่ยว​งาน​สัก 2 ชุด’

      (And he said, “All is well. My master has sent me to say, ‘There have just now come to me from  the hill country of Ephraim two young men of the sons of the prophets. Please give them a talent       of silver and two changes of clothing.’” )

5:23 “และ​นาอามาน​กล่าว​ว่า “โปรด​รับ​ไป​สอง​ตะลันต์​ เถิด” ท่าน​ก็​เชิญชวน​เขา และ​เอา​เงิน​สอง​ตะลันต์​ใส่​ใน 2 กระสอบ​ผูก​ไว้​พร้อม​กับ​เสื้อ​เที่ยว​งาน 2 ตัว ให้​คนใช้​สอง​คน​แบก​ไป เขา​ก็​แบก​เดิน​ขึ้น​หน้า​เกหะซี​มา”

      (And Naaman said, “Be pleased to accept two talents.” And he urged him and tied up two talents   of silver in two bags, with two changes of clothing, and laid them on two of his servants. And           they carried them before Gehazi. )

5:24 “เมื่อ​เขา​ทั้งหลาย​มา​ถึง​ภูเขา เกหะซี​ก็​รับ​มา​จาก​มือ​ของ​เขา เอา​ไป​เก็บ​ไว้​ใน​บ้าน และ​ให้​คน​เหล่า​นั้น​กลับ เขา​ทั้งสอง​ก็​จาก​ไป”

      (And when he came to the hill, he took them from their hand and put them in the house, and he  sent the men away, and they departed. )

5:25 “เกหะซี ​ก็​เข้า​ไป​ยืน​อยู่​ต่อหน้า​นาย​ของ​ตน และ​เอลีชา​ถาม​เขา​ว่า “เกหะซี เจ้า​ไป​ไหน​มา?” เขา​ตอบ​ว่า “ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน​ไม่ได้​ไป​ไหน

      (He went in and stood before his master, and Elisha said to him, “Where have you been,   Gehazi?” And he said, “Your servant went nowhere.” )

5:26 “แต่​ท่าน​กล่าว​กับ​เขา​ว่า “เมื่อ​ชาย​คน​นั้น​หันมา​จาก​รถรบ​ต้อนรับ​เจ้า​นั้น จิตใจ​ของ​เรา​ไม่ได้​ไป​กับ​เจ้า​หรือ? นี่​เป็น​เวลา​ควร​ที่​จะ​รับ​เงิน เสื้อผ้า สวน​มะกอก และ​สวน​องุ่น แกะ และ​วัว และ​คนใช้​ชายหญิง​หรือ?”

       (But he said to him, “Did not my heart go when the man turned from his chariot to meet you?   Was it a time to accept money and garments, olive orchards and vineyards, sheep and oxen,   male servants and female servants? )

5:27 “ฉะนั้น ​โรค​เรื้อน​ของ​นาอามาน​จะ​ติด​อยู่​กับ​เจ้า​และ​เชื้อสาย​ของ​เจ้า​ เป็น​นิตย์” เขา​ก็​ไป​จาก​หน้า​ท่าน​และ​เป็น​โรค​เรื้อน​ขาว​อย่าง​หิมะ”

       (Therefore the leprosy of Naaman shall cling to you and to your descendants forever.” So he went  out from his presence a leper, like snow.)

ข้อมูลมีประโยชน์

5:1       “พระราชาแห่งซีเรีย” (king of Syria) = กษัตริย์ของอารัม – ปฐก.10:22;2ซมอ.10:19

= น่าจะเป็นเบนฮาดัดที่ 2 (8:7;13:3;1พกษ.20:1)

“พระยาห์เวห์ประทานชัยชนะแก่ซีเรียโดยท่านนี้” (by him the Lord had given victory to Syria.)

= ชัยชนะของซีเรีย(อารัม) เหนืออัสซีเรียในควันหลงหลังสงครามคาร์คาร์ ในปี 853 ก.ค.ศ. หรือเป็นสงครามที่ไม่ได้มีการบันทึกไว้ (1พกษ.22:1)

= เพราะพระเจ้าเป็นพระเจ้าผู้ปกครองเหนือทุกชนชาติ ไม่ใช่เฉพาะของอิสราเอลเท่านั้น (อสค. 30:24; มส.2:1-3;9:7)

“เป็นโรคเรื้อน” (was a leper) = โรคผิวหนัง ที่ไม่จำเป็นต้องหมายถึง โรคเรื้อนเท่านั้น (ข.3,6,7,11,27)

5:2       “กองโจมตีของซีเรีย” (the Syrians on one of their raids) = กองทหารซีเรีย  แม้อิสราเอลได้ทำสนธิสัญญาสันติภาพกับซีเรีย ในรัชกาลอาหับ (1พกษ.20:34) แต่ก็มีการกระทบกระทั่งเล็ก ๆน้อย ๆ ที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายอยู่หลังสงครามแย่งชิงราโมทกิเลอาด ซึ่งเป็นเหตุให้อาหับถูกฆ่าตาย (1พกษ.22:4,35)

“เด็กหญิงคนหนึ่ง” (a little girl) = เชลยในดามัสกัสอย่างเด็กหญิงคนหนึ่งกลับรับรู้ถึงการสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้าท่ามกลางประชาชนของพระองค์ โดยเฉพาะเรื่องราวของเอลีชาและได้บอกเล่าเรื่องนี้ให้เจ้านายของเธอฟังอย่างปราศจากอคติ

5:3       “ผู้เผยพระวจนะซึ่งอยู่ในสะมาเรีย” (the prophet who is in Samaria!) = เอลีชาอาศัยอยู่ในสะมาเรีย (ข.29;2:25;6:19) ปท. ปฐก.20:7

5:5       “เราจะส่งสารไปยังพระราชาแห่งอิสราเอล” (I will send a letter to the king of Israel.) = การสู้รบที่ชายแดนไม่ได้ล้มล้างสัญญาสันติภาพระหว่างประเทศทั้ง 2  อย่างเป็นทางการ และกษัตริย์อิสราเอลในระหว่างนั้นคือ โยรัม (1:17;3:1;9:24)

“นำเงิน 10 ตะลันต์” (taking with him ten talents of silver) = หนักประมาณ 340 กิโลกรัม มูลค่าของเงินจำนวนนี้เปรียบได้กับราคาที่อมรีจ่ายเพื่อซื้อเนินเขาสะมาเรีย (1พกษ.16:24)

“ทองคำ 6000 เชเขล”  (six thousand shekels of gold) = หนัก 70 กิโลกรัม

“เสื้อเที่ยวงาน 10 ชุด” (ten changes of clothing)  -ปฐก.24:53;วนฉ.14:12;1ซมอ.9:7;2พกษ.5:22

5:6       “ให้ท่านรักษาเขาให้หายจากโรคเรื้อน” (that you may cure him of his leprosy.)  -เบนฮาดัดคิดเอาเองว่า ผู้เผยพระวจนะที่เด็กหญิงแนะนำมานั้นอยู่ในอำนาจของกษัตริย์โยรัม และคิดว่าเขาคงจะยอมช่วยเหลือหากได้ของขวัญจำนวนมากพอ

5:7       “เขาหาเรื่องทะเลาะกับเราอย่างไร”?( he is seeking a quarrel with me) = “เขาพยายามหาเหตุมารุกรานเรานั่นเอง”

โยรัมสรุปว่า เบนฮาดัดพยายามหาเรื่องเพื่อประกาศสงคราม โยรัมมองไม่เห็นการสถิตและการช่วยกู้ของพระเจ้าผ่านทางเอลีชา –1พกษ.20:7

5:8       “ทำไมฝ่าพระบาทจึงฉีกฉลองพระองค์”(Why have you torn your clothes?) = เอลีชาตำหนิที่โยรัมหวาดกลัวเกินเหตุ (1ซมอ.17:11) และการที่เขาไม่ปรึกษากับพระเจ้าผ่านผู้เผยพระวจนะของพระองค์ (3:13-14) นั้นเป็นตัวบ่งชี้ถึงความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างพระราชาและเอลีชาคนของพระเจ้า –1พกษ.22:7

5:9       “มาพร้อมกับบรรดาม้าและรถรบของท่าน” (came with his horses and chariots) = นาอามานนั่งรถม้าศึกมาหาเอลีชาที่บ้าน คิดทระนงว่าตนเป็นผู้มีอำนาจสั่งการผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าให้รักษาเขาได้

5:10     “จงไปชำระตัวของท่านในแม่น้ำจอร์แดนเจ็ดครั้ง” (Go and wash in the Jordan seven times)

–ยน.9:7;ปฐก.33:3;ลนต.14:7

= คำสั่งที่ต้องการให้นาอามานรู้ว่า การรักษาโรคที่จะเกิดขึ้นนี้ มาโดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าแห่งอิสราเอลซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเราเชื่อฟังคำของผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าเท่านั้น แม้ตัวผู้เผยพระวจนะไม่ใช่ผู้รักษา

-การชำระตัวเป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันในศาสนาต่าง ๆ ในแถบตะวันออก เพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์

            “เจ็ดครั้ง” = สัญลักษณ์ของความครบถ้วนบริสุทธิ์ เป็นการสำแดงให้เห็นว่า การชำระให้นาอามานหายโรค ไม่เกี่ยวข้องกับการล้างตัวในน้ำขุ่น ๆ  แต่เป็นการรักษาจากพระเจ้า (นักวิชาการบางคนตีความว่า นาอามานต้องผ่านแม่น้ำจอร์แดนเหมือนอิสราเอลเสียก่อนจึงจะได้รับการรักษาจากพระเจ้าแห่งอิสราเอล ) -ยชว.3:1-4:24;3:10

5:11     “โบกมือเหนือที่นั่น” (wave his hand over the place)  = นาอามานคาดหวังว่าผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าจะรักษาเขาด้วยการใช้เวทมนตร์วิเศษ –อพย.7:19

5:12     “อาบานาและฟารปาร์” (Abana and Pharpar)  = 2 แม่น้ำในเมืองดามัสกัส

-แม่น้ำอาบานานั้นชาวกรีกเรียกว่า “แม่น้ำทองคำ” (เชื่อกันว่าคือแม่น้ำบาราคา ในปัจจุบัน ที่ไหลจากเทือกเขาตรงข้ามกับเลบานอนและผ่านเมืองดามัสกัส

-ส่วนแม่น้ำ “ฟาร์ปาร์” อยู่ทางตะวันออกของภูเขาเฮอร์โมน และทางใต้ของดามัสกัส

“ไม่ดีกว่าบรรดาลำน้ำแห่งอิสราเอลหรือ” (better than all the waters of Israel?) –อสย.8:6

5:14     “เนื้อของท่านก็กลับคืนเป็นอย่างเนื้อของเด็กเล็กและท่านก็สะอาด” (flesh was restored like the flesh of a little child, and he was clean ) = เหมือนได้เกิดใหม่ทางกาย (ข.15) เมื่อนาอามานยอมเชื่อฟังตามพระวจนะของพระเจ้า(ผ่านคนของพระองค์)  เขาได้รับของขวัญแห่งพระคุณจากพระเจ้า

-นาอามานเป็นหมายสำคัญสำหรับอิสราเอลที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้าที่เตือนสติพวกเขาว่า พวกเขาจะได้รับพระพรจากพระเจ้าก็ต่อเมื่อพวกเขาเชื่อฟังและดำเนินอยู่ในทางของพระเจ้า ด้วยความซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญา แล้วพระเจ้าจะยกชูพวกเขา (1พกษ.17:9-24;มธ.8:10-12;ลก.4:27)

5:15     “ไมมีพระเจ้าอื่นใด ไม่ว่าที่ไหนในโลกนอกจากในอิสราเอล”  (I know that there is no God in all the earth but in Israel) = คำสารภาพและคำประกาศของนาอามานที่นำความอับอายมาสู่อิสราเอล     ชนชาติของพระเจ้าแท้ ๆ ที่ยังลังเลระหว่างการติดตามพระบาอัล ทั้ง ๆ ที่พระเจ้าเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้แต่ผู้เดียว  (1พกษ.18:21)

5:16     “เราจะไม่รับอะไรเลยฉันนั้น” (I will receive none) = เอลีชาไม่ได้แสวงทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อะไรจากการประกาศพระวจนะของพระเจ้า (มธ.10:8)

= ตระหนักว่า นาอามานได้รับการรักษาโดยพระคุณของพระเจ้าเท่านั้น ไม่ใช่ด้วยฤทธิ์เดชอำนาจของเอลีชา

5:17     “ให้ดินที่ล่อสองตัวจะบรรทุกได้” (please let there be given to your servant two mule loads of earth) = คนยุคโบราณโดยทั่วไปเข้าใจว่าจะสามารถนมัสการพระหรือเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง เฉพาะบนแผ่นดินของพระ(เจ้า)องค์นั้นเท่านั้น (ข.15) ด้วยเหตุนี้นาอามานจึงต้องการนำดินจากแผ่นดินอิสราเอลกลับไปด้วย เพื่อจะมีสถานที่นมัสการพระเจ้าในดามัสกัส

5:18     “นายของข้าพเจ้า” (my master) = เบนฮาดัดกษัตริย์แห่งซีเรีย (อารัม)

“พระริมโมน” (Rimmon ) = มีชื่อว่า “ฮาดัด” เช่นกัน (ในแถบคานาอันและแถบฟินิเซีย มีชื่อว่า พระบาอัล) พระของชาวอารัม(ซีเรีย)องค์นี้ เป็นเทพเจ้าแห่งพายุและสงคราม

ส่วน “ริมโมน” หมายความว่า “ผู้ควบคุมสายฟ้า” บางทีก็ใช้สองชื่อนี้รวมกัน

5:19     “จงไปโดยสวัสดิภาพเถิด” (Go in peace) = เอลีชาไม่ได้ตอบคำถามเรื่องจิตสำนึกผิดชอบของนาอามานตรง ๆ  (ข.18) แค่แนะนำให้เขาทำตามการทรงนำและพระคุณของพระเจ้า เมื่อเขากลับสูสภาพแวดล้อมของศาสนาอื่น ๆ และในหน้าที่รับผิดชอบของตน

5:20     “พระยาห์เวห์ทรงพระชนน์อยู่แน่ฉันใด” (As the Lord lives) = สำนวนที่ใช้ในการสาบาน (1ซมอ.14:39,45)

5:22    “ชายหนุ่ม 2 คน” (two young men) = ผู้เผยพระวจนะ 2 คน (2:3)

“เงินสองตะลันต์ใส่ 2 กระสองผูกไว้กับเสื้อเที่ยวงาน 2 ตัว” (talent of silver and two changes of clothing)= เงินประมาณ 34 กิโลกรัม เกหะซีหลอกนาอามานเพื่อเอาทรัพย์สมบัติ ทำให้ภาพลักษณ์ของ   เอลีชาผู้เผยพระวจนะไม่ต่างจากผู้เผยพระวจนะของพระเทียมเท็จ และผู้ทำนายนอกรีตที่เห็นแก่ตัว

5:24     “บ้าน” (the house  ) = บ้านของเอลีชา (ข.9)

5:26     “นี่เป็นเวลาควรที่จะรับเงิน เสื้อผ้า สวนมะกอก…หรือ?” (Was it a time to accept money and garments, olive orchards) = เกหะซีจงใจใช้พระคุณของพระเจ้าที่ประทานให้แก่คนอื่นมาหาทรัพย์สมบัติเพื่อตัวเอง เท่ากับเป็นการขายพระคุณของพระเจ้า (2คร.2:17)

“เงิน” = เงินน้ำหนักต่าง ๆ กัน ไม่ใช่เหรียญที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นภายหลัง

“เสื้อผ้า….คนใช้ชายหญิง” (male servants and female servants) = ชี้ให้เห็นว่า เกหะซีมีแผนคิดไว้แล้วว่า จะเอาเงินไปทำอะไร (ข.5)

5:27     “โรคเรื้อน…จะติดอยู่กับเจ้าและเชื้อสายของเจ้าเป็นนิตย์” (Therefore the leprosy ……….shall cling to you and to your descendants forever.        ) = บทลงโทษผู้ละเมิดบทบัญญัติที่ตกทอดไปถึงลูกหลาน ใน อพย.20:5;ยชว.7:24; “ขาวอย่างหิมะ”(like snow) –อพย.4:6

คำถามนำอภิปราย

  1. คุณตระหนักหรือไม่ว่าพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าของคนทั้งโลก ไม่ใช่เฉพาะของพวกคริสเตียนเท่านั้น? ความเข้าใจนี้สอนอะไรคุณบ้าง?
  2. คุณตระหนักหรือไม่ว่า แม้ว่าคุณจะมีฐานะต่ำต้อย แต่คุณก็สามารถรับใช้พระเจ้าได้ (เหมือนอย่างเด็กหญิงที่เป็นทาส ในเรื่องนี้)? เวลานี้คุณกำลังถวายเกียรติและรับใช้พระเจ้าในเรื่องอะไรบ้าง?
  3. คุณเคยออกอาการ “กระต่ายตื่นตูม” หรือ “ตีตนไปก่อนไข้” บ้างหรือไม่? (ที่คุณรู้สึกว่าคุณไม่น่าออกอาการอย่างนั้นเลย)ในเรื่องอะไร เป็นอย่างไร?  แล้วคุณแก้ไขอย่างไร?
  4. คุณเคยทำตัวหยิ่งทระนงโดยไม่จำเป็นจน(เกือบ) เป็นเหตุที่ทำให้เสียเรื่องบ้างหรือไม่?  อย่างไร? (แบ่งปัน) แล้วตอนหลังเป็นอย่างไร?
  5. คุณเคยขอพระเจ้าช่วยคุณผ่านคนของพระเจ้าในเรื่องใดบ้าง? แล้วผลเป็นอย่างไร?
  6. คุณเคยรู้สึกหงุดหงิดใจกับคำแนะนำของใครบางคน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่แนะนำคุณให้ปฏิบัติตามพระวจนะของพระเจ้า) บ้างหรือไม่?  เรื่องอะไร? แล้วผลลัพธ์เป็นอย่างไร?
  7. เคยมีประสบการณ์ใดกับพระเจ้าที่ทำให้คุณถ่อมใจลงได้และคุณรู้สึกขอบคุณพระเจ้าเพราะเหตุการณ์นั้นๆ? (แบ่งปัน)
  8. คุณเคยประสบกับสถานการณ์หรือสภาวะที่อึดอัดหรือทำอะไรไม่ถูก แต่สุดท้ายผ่านพ้นไปได้ โดยการช่วยเหลือหรือทรงนำของพระเจ้าบ้างหรือไม่?  อย่างไร?
  9. คุณเคยรับผลร้ายเพราะความโลภของคุณบ้างหรือไม่? หรือคุณเคยเห็นใครบางคนโลภและต้องรับการลงโทษจากพระเจ้าบ้างหรือไม่?  อย่างไร?

ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.