ผิดกลับถูก ถูกกลับผิด!
พระธรรม 2พงศ์กษัตริย์ 5:1-27
อ้างอิง 1พกษ.20:7;5:5,16,20-22,26;2พกษ.6:21-23,21;7:2;13:20;19:14;24:2
บทนำ น่าแปลกใจที่บางครั้งคนบางคนที่เริ่มต้นประพฤติตัวไม่ถูกต้องกลับกลับใจและประพฤติตนเป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า ในขณะที่คน(ของพระจ้า)บางคนที่เริ่มต้นปรนนิบัติพระเจ้าประหนึ่งคนที่น่าเชื่อถือ แต่กลับปล่อยให้ความโลภหรือเนื้อหนังครอบงำความคิดจิตใจทำให้เสียคนในบั้นปลายและลูกหลานต้องได้รับทุกข์ภัยโดยไม่สมควร!
บทเรียน
5:1 “นาอามานผู้บัญชาการกองทัพของพระราชาแห่งซีเรีย เป็นคนสำคัญมากของพระราชา เป็นคนมีเกียรติ เพราะว่าพระยาห์เวห์ประทานชัยชนะแก่ซีเรียโดยท่านนี้ ท่านเป็นนักรบกล้าหาญด้วย แต่ท่านเป็นโรคเรื้อน”
( Naaman, commander of the army of the king of Syria, was a great man with his master and in high favor, because by him the Lord had given victory to Syria. He was a mighty man of valor, but
he was a leper. )
5:2 “กองโจมตีของคนซีเรียได้ออกไป และได้จับเด็กหญิงคนหนึ่งจากแผ่นดินอิสราเอล และเธอมารับใช้ภรรยาของนาอามาน”
(Now the Syrians on one of their raids had carried off a little girl from the land of Israel, and she worked in the service of Naaman’s wife. )
5:3 “เธอได้เรียนนายผู้หญิงของเธอว่า “เพียงแค่นายผู้ชายไปอยู่กับผู้เผยพระวจนะซึ่งอยู่ใน สะมาเรีย แล้วท่านจะได้รักษาโรคเรื้อนของเจ้านายเสียให้หาย”
(She said to her mistress, “Would that my lord were with the prophet who is in Samaria! He would cure him of his leprosy.” )
5:4 “นาอามานจึงไปทูลเจ้านายของท่านว่า สาวใช้จากแผ่นดินอิสราเอลพูดว่าอย่างนั้น”
(So Naaman went in and told his lord, “Thus and so spoke the girl from the land of Israel.” )
5:5 “พระราชาแห่งซีเรียตรัสว่า “จงไปเถิด เราจะส่งสารไปยังพระราชาแห่งอิสราเอล” แล้วท่านก็ไป นำเงิน 10 ตะลันต์ ทองคำ 6,000 เชเขล และเสื้อเที่ยวงาน 10 ชุดไปด้วย”
(And the king of Syria said, “Go now, and I will send a letter to the king of Israel.” So he went, taking with him ten talents of silver, six thousand shekels of gold, and ten changes of clothing. )
5:6 “และท่านก็นำสารไปยังพระราชาแห่งอิสราเอล มีใจความว่า “เมื่อสารนี้มาถึงท่าน ขอท่านทราบด้วยว่า เราส่งนาอามานข้าราชการของเรามายังท่าน เพื่อให้ท่านรักษาเขาให้หายจากโรคเรื้อน”
(And he brought the letter to the king of Israel, which read, “When this letter reaches you, know that I have sent to you Naaman my servant, that you may cure him of his leprosy.”)
5:7 “เมื่อพระราชาแห่งอิสราเอลทรงอ่านสารนั้นแล้ว ก็ฉีกฉลองพระองค์ ตรัสว่า “เราเป็นพระเจ้าซึ่งจะให้ตายและให้มีชีวิตหรือ? ชายคนนี้จึงส่งสารมาให้เรารักษาคนหนึ่งให้หายจากโรคเรื้อน คิดดูซิว่า เขาหาเรื่องทะเลาะกับเราอย่างไร”
(And when the king of Israel read the letter, he tore his clothes and said, “Am I God, to kill and to make alive, that this man sends word to me to cure a man of his leprosy? Only consider, and see
how he is seeking a quarrel with me.”)
5:8 “แต่เมื่อเอลีชาคนของพระเจ้าได้ยินว่า พระราชาแห่งอิสราเอลฉีกฉลองพระองค์ จึงใช้คนไปทูลพระราชาว่า “ทำไมฝ่าพระบาทจึงฉีกฉลองพระองค์? ให้เขามาหาข้าพระบาทเถิด แล้วเขาจะรู้ว่า มีผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งใน อิสราเอล”
(But when Elisha the man of God heard that the king of Israel had torn his clothes, he sent to the king, saying, “Why have you torn your clothes? Let him come now to me, that he may know that
there is a prophet in Israel.” )
5:9 “นาอามานจึงมาพร้อมกับบรรดาม้าและรถรบของท่าน มาหยุดอยู่ที่ประตูบ้านของเอลีชา”
(So Naaman came with his horses and chariots and stood at the door of Elisha’s house. )
5:10 “เอลีชา ก็ส่งผู้สื่อสารมาเรียนท่านว่า “จงไปชำระตัวในแม่น้ำจอร์แดนเจ็ดครั้ง และเนื้อของท่านจะกลับคืน อย่างเดิม และท่านจะสะอาด”
(And Elisha sent a messenger to him, saying, “Go and wash in the Jordan seven times, and your flesh shall be restored, and you shall be clean.” )
5:11 “แต่นาอามานโกรธและไปเสีย บ่นว่า “ดูสิ ข้าคิดว่าเขาจะออกมาหาข้าแน่ๆ และมายืนอยู่ และออกพระนาม ของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา แล้วโบกมือเหนือที่นั้น ให้โรคเรื้อนหาย”
(But Naaman was angry and went away, saying, “Behold, I thought that he would surely come out to me and stand and call upon the name of the Lord his God, and wave his hand over the
place and cure the leper. )
5:12 “อาบานา และฟารปาร์แม่น้ำเมืองดามัสกัส ไม่ดีกว่าบรรดาลำน้ำแห่งอิสราเอลหรือ? ข้าจะชำระตัวในแม่น้ำเหล่านั้น และจะสะอาดไม่ได้หรือ?” ท่านจึงหันหลังไปเสียด้วยความเดือดดาล”
(Are not Abana and Pharpar, the rivers of Damascus, better than all the waters of Israel? Could I not wash in them and be clean?” So he turned and went away in a rage. )
5:13 “แต่พวกข้าราชการของท่านเข้ามาใกล้ และทัดทานท่านว่า “บิดาของข้าพเจ้า ถ้าผู้เผยพระวจนะจะสั่งให้ท่านทำสิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง ท่านจะไม่ทำหรือ? ถ้าเช่นนั้นเมื่อผู้เผยพระวจนะสั่งท่านว่า ‘จงไปล้าง และสะอาดเถิด’ ท่านยิ่งควรจะทำสักเท่าไร?”
(But his servants came near and said to him, “My father, it is a great word the prophet has spoken to you; will you not do it? Has he actually said to you, ‘Wash, and be clean’?” )
5:14 “ท่านจึงลงไปจุ่มตัวเจ็ดครั้งในแม่น้ำจอร์แดน ตามถ้อยคำของคนของพระเจ้า และเนื้อของท่านก็กลับคืนเป็น อย่างเนื้อของเด็กเล็ก และท่านก็สะอาด”
(So he went down and dipped himself seven times in the Jordan, according to the word of the man of God, and his flesh was restored like the flesh of a little child, and he was clean.)
5:15 “แล้วท่านก็กลับมาหาคนของพระเจ้า ทั้งตัวท่านและพรรคพวกของท่าน และท่านมายืนอยู่ต่อหน้าเอลีชาและ กล่าวว่า “ดูสิ ข้าพเจ้ารู้แล้วว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใด ไม่ว่าที่ไหนในโลก นอกจากในอิสราเอล เพราะฉะนั้น บัดนี้โปรดรับของกำนัลจากผู้รับใช้ของท่านเถิด”
(Then he returned to the man of God, he and all his company, and he came and stood before him. And he said, “Behold, I know that there is no God in all the earth but in Israel; so accept now
a present from your servant.” )
5:16 “แต่เอลีชาตอบว่า “พระยาห์เวห์ซึ่งเราปรนนิบัติ ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด เราจะไม่รับอะไรเลยฉันนั้น” และท่านก็ได้คะยั้นคะยอให้รับไว้ แต่เอลีชาปฏิเสธ”
(But he said, “As the Lord lives, before whom I stand, I will receive none.” And he urged him to take it, but he refused. )
5:17 “นาอามาน จึงกล่าวว่า “หากท่านไม่รับ ก็โปรดให้ดินที่ล่อสองตัวจะบรรทุกได้แก่ผู้รับใช้ของท่าน เถิด เพราะ ตั้งแต่นี้ไป ผู้รับใช้ของท่านจะไม่ถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวหรือเครื่อง สัตวบูชาแด่พระอื่น แต่จะถวายแด่พระยาห์เวห์เท่านั้น”
(Then Naaman said, “If not, please let there be given to your servant two mule loads of earth, for from now on your servant will not offer burnt offering or sacrifice to any god but the Lord. )
5:18 “ในเรื่องนี้ ขอพระยาห์เวห์ทรงให้อภัยผู้รับใช้ของท่าน คือเมื่อพระราชานายของข้าพเจ้าเข้าไปในนิเวศของพระริมโมน เพื่อจะนมัสการที่นั่น และทรงพิงอยู่ที่มือของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะต้องโน้มตัวลงคำนับในนิเวศ ของพระริมโมน เมื่อข้าพเจ้าโน้มตัวลงคำนับในนิเวศของพระริมโมนนั้น ขอพระยาห์เวห์ทรงให้อภัยผู้รับใช้ของท่านในกรณีนี้”
(In this matter may the Lord pardon your servant: when my master goes into the house of Rimmon to worship there, leaning on my arm, and I bow myself in the house of Rimmon, when I bow myself in the house of Rimmon, the Lord pardon your servant in this matter.” )
5:19 “เอลีชาจึงตอบท่านว่า “จงไปโดยสวัสดิภาพเถิด” แต่เมื่อนาอามานออกไปได้ไม่ไกลนัก”
(He said to him, “Go in peace.” But when Naaman had gone from him a short distance, )
5:20 “เกหะซี คนใช้ของเอลีชาคนของพระเจ้าคิดว่า “ดูสิ นายของข้าไม่ยอมรับของจากมือของนาอามานคนซีเรียที่ เขานำมา พระยาห์เวห์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ข้าจะวิ่งตามไปเอามาจากเขาบ้างฉันนั้น”
(Gehazi, the servant of Elisha the man of God, said, “See, my master has spared this Naaman the Syrian, in not accepting from his hand what he brought. As the Lord lives, I will run after him and get something from him.” )
5:21 “เกหะซี จึงตามนาอามานไป และเมื่อนาอามานแลเห็นคนวิ่งตามท่านมา ท่านก็ลงจากรถรบต้อนรับเขาพูดว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือ?”
(So Gehazi followed Naaman. And when Naaman saw someone running after him, he got down from the chariot to meet him and said, “Is all well?” )
5:22 “เขาตอบว่า “เรียบร้อยดี นายข้าได้ใช้ข้ามา เรียนว่า ‘ชายหนุ่มสองคนในกลุ่มผู้เผยพระวจนะจากแดนเทือกเขาเอฟราอิม มาหาเรา โปรดให้เงินพวกเขาสักหนึ่งตะลันต์ และเสื้อเที่ยวงานสัก 2 ชุด’ ”
(And he said, “All is well. My master has sent me to say, ‘There have just now come to me from the hill country of Ephraim two young men of the sons of the prophets. Please give them a talent of silver and two changes of clothing.’” )
5:23 “และนาอามานกล่าวว่า “โปรดรับไปสองตะลันต์ เถิด” ท่านก็เชิญชวนเขา และเอาเงินสองตะลันต์ใส่ใน 2 กระสอบผูกไว้พร้อมกับเสื้อเที่ยวงาน 2 ตัว ให้คนใช้สองคนแบกไป เขาก็แบกเดินขึ้นหน้าเกหะซีมา”
(And Naaman said, “Be pleased to accept two talents.” And he urged him and tied up two talents of silver in two bags, with two changes of clothing, and laid them on two of his servants. And they carried them before Gehazi. )
5:24 “เมื่อเขาทั้งหลายมาถึงภูเขา เกหะซีก็รับมาจากมือของเขา เอาไปเก็บไว้ในบ้าน และให้คนเหล่านั้นกลับ เขาทั้งสองก็จากไป”
(And when he came to the hill, he took them from their hand and put them in the house, and he sent the men away, and they departed. )
5:25 “เกหะซี ก็เข้าไปยืนอยู่ต่อหน้านายของตน และเอลีชาถามเขาว่า “เกหะซี เจ้าไปไหนมา?” เขาตอบว่า “ผู้รับใช้ของท่านไม่ได้ไปไหน”
(He went in and stood before his master, and Elisha said to him, “Where have you been, Gehazi?” And he said, “Your servant went nowhere.” )
5:26 “แต่ท่านกล่าวกับเขาว่า “เมื่อชายคนนั้นหันมาจากรถรบต้อนรับเจ้านั้น จิตใจของเราไม่ได้ไปกับเจ้าหรือ? นี่เป็นเวลาควรที่จะรับเงิน เสื้อผ้า สวนมะกอก และสวนองุ่น แกะ และวัว และคนใช้ชายหญิงหรือ?”
(But he said to him, “Did not my heart go when the man turned from his chariot to meet you? Was it a time to accept money and garments, olive orchards and vineyards, sheep and oxen, male servants and female servants? )
5:27 “ฉะนั้น โรคเรื้อนของนาอามานจะติดอยู่กับเจ้าและเชื้อสายของเจ้า เป็นนิตย์” เขาก็ไปจากหน้าท่านและเป็นโรคเรื้อนขาวอย่างหิมะ”
(Therefore the leprosy of Naaman shall cling to you and to your descendants forever.” So he went out from his presence a leper, like snow.)
ข้อมูลมีประโยชน์
5:1 “พระราชาแห่งซีเรีย” (king of Syria) = กษัตริย์ของอารัม – ปฐก.10:22;2ซมอ.10:19
= น่าจะเป็นเบนฮาดัดที่ 2 (8:7;13:3;1พกษ.20:1)
“พระยาห์เวห์ประทานชัยชนะแก่ซีเรียโดยท่านนี้” (by him the Lord had given victory to Syria.)
= ชัยชนะของซีเรีย(อารัม) เหนืออัสซีเรียในควันหลงหลังสงครามคาร์คาร์ ในปี 853 ก.ค.ศ. หรือเป็นสงครามที่ไม่ได้มีการบันทึกไว้ (1พกษ.22:1)
= เพราะพระเจ้าเป็นพระเจ้าผู้ปกครองเหนือทุกชนชาติ ไม่ใช่เฉพาะของอิสราเอลเท่านั้น (อสค. 30:24; มส.2:1-3;9:7)
“เป็นโรคเรื้อน” (was a leper) = โรคผิวหนัง ที่ไม่จำเป็นต้องหมายถึง โรคเรื้อนเท่านั้น (ข.3,6,7,11,27)
5:2 “กองโจมตีของซีเรีย” (the Syrians on one of their raids) = กองทหารซีเรีย แม้อิสราเอลได้ทำสนธิสัญญาสันติภาพกับซีเรีย ในรัชกาลอาหับ (1พกษ.20:34) แต่ก็มีการกระทบกระทั่งเล็ก ๆน้อย ๆ ที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายอยู่หลังสงครามแย่งชิงราโมทกิเลอาด ซึ่งเป็นเหตุให้อาหับถูกฆ่าตาย (1พกษ.22:4,35)
“เด็กหญิงคนหนึ่ง” (a little girl) = เชลยในดามัสกัสอย่างเด็กหญิงคนหนึ่งกลับรับรู้ถึงการสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้าท่ามกลางประชาชนของพระองค์ โดยเฉพาะเรื่องราวของเอลีชาและได้บอกเล่าเรื่องนี้ให้เจ้านายของเธอฟังอย่างปราศจากอคติ
5:3 “ผู้เผยพระวจนะซึ่งอยู่ในสะมาเรีย” (the prophet who is in Samaria!) = เอลีชาอาศัยอยู่ในสะมาเรีย (ข.29;2:25;6:19) ปท. ปฐก.20:7
5:5 “เราจะส่งสารไปยังพระราชาแห่งอิสราเอล” (I will send a letter to the king of Israel.) = การสู้รบที่ชายแดนไม่ได้ล้มล้างสัญญาสันติภาพระหว่างประเทศทั้ง 2 อย่างเป็นทางการ และกษัตริย์อิสราเอลในระหว่างนั้นคือ โยรัม (1:17;3:1;9:24)
“นำเงิน 10 ตะลันต์” (taking with him ten talents of silver) = หนักประมาณ 340 กิโลกรัม มูลค่าของเงินจำนวนนี้เปรียบได้กับราคาที่อมรีจ่ายเพื่อซื้อเนินเขาสะมาเรีย (1พกษ.16:24)
“ทองคำ 6000 เชเขล” (six thousand shekels of gold) = หนัก 70 กิโลกรัม
“เสื้อเที่ยวงาน 10 ชุด” (ten changes of clothing) -ปฐก.24:53;วนฉ.14:12;1ซมอ.9:7;2พกษ.5:22
5:6 “ให้ท่านรักษาเขาให้หายจากโรคเรื้อน” (that you may cure him of his leprosy.) -เบนฮาดัดคิดเอาเองว่า ผู้เผยพระวจนะที่เด็กหญิงแนะนำมานั้นอยู่ในอำนาจของกษัตริย์โยรัม และคิดว่าเขาคงจะยอมช่วยเหลือหากได้ของขวัญจำนวนมากพอ
5:7 “เขาหาเรื่องทะเลาะกับเราอย่างไร”?( he is seeking a quarrel with me) = “เขาพยายามหาเหตุมารุกรานเรานั่นเอง”
โยรัมสรุปว่า เบนฮาดัดพยายามหาเรื่องเพื่อประกาศสงคราม โยรัมมองไม่เห็นการสถิตและการช่วยกู้ของพระเจ้าผ่านทางเอลีชา –1พกษ.20:7
5:8 “ทำไมฝ่าพระบาทจึงฉีกฉลองพระองค์”(Why have you torn your clothes?) = เอลีชาตำหนิที่โยรัมหวาดกลัวเกินเหตุ (1ซมอ.17:11) และการที่เขาไม่ปรึกษากับพระเจ้าผ่านผู้เผยพระวจนะของพระองค์ (3:13-14) นั้นเป็นตัวบ่งชี้ถึงความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างพระราชาและเอลีชาคนของพระเจ้า –1พกษ.22:7
5:9 “มาพร้อมกับบรรดาม้าและรถรบของท่าน” (came with his horses and chariots) = นาอามานนั่งรถม้าศึกมาหาเอลีชาที่บ้าน คิดทระนงว่าตนเป็นผู้มีอำนาจสั่งการผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าให้รักษาเขาได้
5:10 “จงไปชำระตัวของท่านในแม่น้ำจอร์แดนเจ็ดครั้ง” (Go and wash in the Jordan seven times)
–ยน.9:7;ปฐก.33:3;ลนต.14:7
= คำสั่งที่ต้องการให้นาอามานรู้ว่า การรักษาโรคที่จะเกิดขึ้นนี้ มาโดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าแห่งอิสราเอลซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเราเชื่อฟังคำของผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าเท่านั้น แม้ตัวผู้เผยพระวจนะไม่ใช่ผู้รักษา
-การชำระตัวเป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันในศาสนาต่าง ๆ ในแถบตะวันออก เพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์
“เจ็ดครั้ง” = สัญลักษณ์ของความครบถ้วนบริสุทธิ์ เป็นการสำแดงให้เห็นว่า การชำระให้นาอามานหายโรค ไม่เกี่ยวข้องกับการล้างตัวในน้ำขุ่น ๆ แต่เป็นการรักษาจากพระเจ้า (นักวิชาการบางคนตีความว่า นาอามานต้องผ่านแม่น้ำจอร์แดนเหมือนอิสราเอลเสียก่อนจึงจะได้รับการรักษาจากพระเจ้าแห่งอิสราเอล ) -ยชว.3:1-4:24;3:10
5:11 “โบกมือเหนือที่นั่น” (wave his hand over the place) = นาอามานคาดหวังว่าผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าจะรักษาเขาด้วยการใช้เวทมนตร์วิเศษ –อพย.7:19
5:12 “อาบานาและฟารปาร์” (Abana and Pharpar) = 2 แม่น้ำในเมืองดามัสกัส
-แม่น้ำอาบานานั้นชาวกรีกเรียกว่า “แม่น้ำทองคำ” (เชื่อกันว่าคือแม่น้ำบาราคา ในปัจจุบัน ที่ไหลจากเทือกเขาตรงข้ามกับเลบานอนและผ่านเมืองดามัสกัส
-ส่วนแม่น้ำ “ฟาร์ปาร์” อยู่ทางตะวันออกของภูเขาเฮอร์โมน และทางใต้ของดามัสกัส
“ไม่ดีกว่าบรรดาลำน้ำแห่งอิสราเอลหรือ” (better than all the waters of Israel?) –อสย.8:6
5:14 “เนื้อของท่านก็กลับคืนเป็นอย่างเนื้อของเด็กเล็กและท่านก็สะอาด” (flesh was restored like the flesh of a little child, and he was clean ) = เหมือนได้เกิดใหม่ทางกาย (ข.15) เมื่อนาอามานยอมเชื่อฟังตามพระวจนะของพระเจ้า(ผ่านคนของพระองค์) เขาได้รับของขวัญแห่งพระคุณจากพระเจ้า
-นาอามานเป็นหมายสำคัญสำหรับอิสราเอลที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้าที่เตือนสติพวกเขาว่า พวกเขาจะได้รับพระพรจากพระเจ้าก็ต่อเมื่อพวกเขาเชื่อฟังและดำเนินอยู่ในทางของพระเจ้า ด้วยความซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญา แล้วพระเจ้าจะยกชูพวกเขา (1พกษ.17:9-24;มธ.8:10-12;ลก.4:27)
5:15 “ไมมีพระเจ้าอื่นใด ไม่ว่าที่ไหนในโลกนอกจากในอิสราเอล” (I know that there is no God in all the earth but in Israel) = คำสารภาพและคำประกาศของนาอามานที่นำความอับอายมาสู่อิสราเอล ชนชาติของพระเจ้าแท้ ๆ ที่ยังลังเลระหว่างการติดตามพระบาอัล ทั้ง ๆ ที่พระเจ้าเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้แต่ผู้เดียว (1พกษ.18:21)
5:16 “เราจะไม่รับอะไรเลยฉันนั้น” (I will receive none) = เอลีชาไม่ได้แสวงทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อะไรจากการประกาศพระวจนะของพระเจ้า (มธ.10:8)
= ตระหนักว่า นาอามานได้รับการรักษาโดยพระคุณของพระเจ้าเท่านั้น ไม่ใช่ด้วยฤทธิ์เดชอำนาจของเอลีชา
5:17 “ให้ดินที่ล่อสองตัวจะบรรทุกได้” (please let there be given to your servant two mule loads of earth) = คนยุคโบราณโดยทั่วไปเข้าใจว่าจะสามารถนมัสการพระหรือเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง เฉพาะบนแผ่นดินของพระ(เจ้า)องค์นั้นเท่านั้น (ข.15) ด้วยเหตุนี้นาอามานจึงต้องการนำดินจากแผ่นดินอิสราเอลกลับไปด้วย เพื่อจะมีสถานที่นมัสการพระเจ้าในดามัสกัส
5:18 “นายของข้าพเจ้า” (my master) = เบนฮาดัดกษัตริย์แห่งซีเรีย (อารัม)
“พระริมโมน” (Rimmon ) = มีชื่อว่า “ฮาดัด” เช่นกัน (ในแถบคานาอันและแถบฟินิเซีย มีชื่อว่า พระบาอัล) พระของชาวอารัม(ซีเรีย)องค์นี้ เป็นเทพเจ้าแห่งพายุและสงคราม
ส่วน “ริมโมน” หมายความว่า “ผู้ควบคุมสายฟ้า” บางทีก็ใช้สองชื่อนี้รวมกัน
5:19 “จงไปโดยสวัสดิภาพเถิด” (Go in peace) = เอลีชาไม่ได้ตอบคำถามเรื่องจิตสำนึกผิดชอบของนาอามานตรง ๆ (ข.18) แค่แนะนำให้เขาทำตามการทรงนำและพระคุณของพระเจ้า เมื่อเขากลับสูสภาพแวดล้อมของศาสนาอื่น ๆ และในหน้าที่รับผิดชอบของตน
5:20 “พระยาห์เวห์ทรงพระชนน์อยู่แน่ฉันใด” (As the Lord lives) = สำนวนที่ใช้ในการสาบาน (1ซมอ.14:39,45)
5:22 “ชายหนุ่ม 2 คน” (two young men) = ผู้เผยพระวจนะ 2 คน (2:3)
“เงินสองตะลันต์ใส่ 2 กระสองผูกไว้กับเสื้อเที่ยวงาน 2 ตัว” (talent of silver and two changes of clothing)= เงินประมาณ 34 กิโลกรัม เกหะซีหลอกนาอามานเพื่อเอาทรัพย์สมบัติ ทำให้ภาพลักษณ์ของ เอลีชาผู้เผยพระวจนะไม่ต่างจากผู้เผยพระวจนะของพระเทียมเท็จ และผู้ทำนายนอกรีตที่เห็นแก่ตัว
5:24 “บ้าน” (the house ) = บ้านของเอลีชา (ข.9)
5:26 “นี่เป็นเวลาควรที่จะรับเงิน เสื้อผ้า สวนมะกอก…หรือ?” (Was it a time to accept money and garments, olive orchards) = เกหะซีจงใจใช้พระคุณของพระเจ้าที่ประทานให้แก่คนอื่นมาหาทรัพย์สมบัติเพื่อตัวเอง เท่ากับเป็นการขายพระคุณของพระเจ้า (2คร.2:17)
“เงิน” = เงินน้ำหนักต่าง ๆ กัน ไม่ใช่เหรียญที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นภายหลัง
“เสื้อผ้า….คนใช้ชายหญิง” (male servants and female servants) = ชี้ให้เห็นว่า เกหะซีมีแผนคิดไว้แล้วว่า จะเอาเงินไปทำอะไร (ข.5)
5:27 “โรคเรื้อน…จะติดอยู่กับเจ้าและเชื้อสายของเจ้าเป็นนิตย์” (Therefore the leprosy ……….shall cling to you and to your descendants forever. ) = บทลงโทษผู้ละเมิดบทบัญญัติที่ตกทอดไปถึงลูกหลาน ใน อพย.20:5;ยชว.7:24; “ขาวอย่างหิมะ”(like snow) –อพย.4:6
คำถามนำอภิปราย
- คุณตระหนักหรือไม่ว่าพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าของคนทั้งโลก ไม่ใช่เฉพาะของพวกคริสเตียนเท่านั้น? ความเข้าใจนี้สอนอะไรคุณบ้าง?
- คุณตระหนักหรือไม่ว่า แม้ว่าคุณจะมีฐานะต่ำต้อย แต่คุณก็สามารถรับใช้พระเจ้าได้ (เหมือนอย่างเด็กหญิงที่เป็นทาส ในเรื่องนี้)? เวลานี้คุณกำลังถวายเกียรติและรับใช้พระเจ้าในเรื่องอะไรบ้าง?
- คุณเคยออกอาการ “กระต่ายตื่นตูม” หรือ “ตีตนไปก่อนไข้” บ้างหรือไม่? (ที่คุณรู้สึกว่าคุณไม่น่าออกอาการอย่างนั้นเลย)ในเรื่องอะไร เป็นอย่างไร? แล้วคุณแก้ไขอย่างไร?
- คุณเคยทำตัวหยิ่งทระนงโดยไม่จำเป็นจน(เกือบ) เป็นเหตุที่ทำให้เสียเรื่องบ้างหรือไม่? อย่างไร? (แบ่งปัน) แล้วตอนหลังเป็นอย่างไร?
- คุณเคยขอพระเจ้าช่วยคุณผ่านคนของพระเจ้าในเรื่องใดบ้าง? แล้วผลเป็นอย่างไร?
- คุณเคยรู้สึกหงุดหงิดใจกับคำแนะนำของใครบางคน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่แนะนำคุณให้ปฏิบัติตามพระวจนะของพระเจ้า) บ้างหรือไม่? เรื่องอะไร? แล้วผลลัพธ์เป็นอย่างไร?
- เคยมีประสบการณ์ใดกับพระเจ้าที่ทำให้คุณถ่อมใจลงได้และคุณรู้สึกขอบคุณพระเจ้าเพราะเหตุการณ์นั้นๆ? (แบ่งปัน)
- คุณเคยประสบกับสถานการณ์หรือสภาวะที่อึดอัดหรือทำอะไรไม่ถูก แต่สุดท้ายผ่านพ้นไปได้ โดยการช่วยเหลือหรือทรงนำของพระเจ้าบ้างหรือไม่? อย่างไร?
- คุณเคยรับผลร้ายเพราะความโลภของคุณบ้างหรือไม่? หรือคุณเคยเห็นใครบางคนโลภและต้องรับการลงโทษจากพระเจ้าบ้างหรือไม่? อย่างไร?
ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์