“ถ้าคุณสร้างสาวก คุณมักจะได้คริสตจักร แต่ถ้าคุณสร้างคริสตจักร คุณมักไม่ได้สาวกมาง่าย ๆ “
(If you make disciples, you always get the Church. But it you make a church, you rarely get disciples.) -Mike Breen-
คริสตจักรที่มีแต่ผู้สนใจหรือผู้เชื่อเป็นสมาชิก ถือว่าไม่มั่นคง!
เพราะว่า สมาชิกเหล่านี้ไม่ใช่ฐานอันแข็งแรงพอสำหรับคริสตจักร คริสตจักรที่แข็งแรงคือ คริสตจักรที่มีพื้นฐานอันมั่นคง นั่นคือ มีสมาชิกที่เป็นสาวกแท้ขององค์พระเยซูคริสต์
นอกจากนี้คริสตจักรที่แข็งแรงยังต้องเป็นคริสตจักรที่มีรากฐานอยู่บนคำสอนอันถูกต้องของพระคริสต์ธรรมคัมภีร์
เป็นคริสตจักรที่สมาชิกที่เป็นสาวกของพระคริสต์ รู้ เข้าใจและปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ และคริสตจักรที่เข้มแข็งเช่นนี้ล่ะจะเป็นตัวเปลี่ยนแปลงสังคมและโลก!
ดุจดังคำกล่าวที่ ดร.บิล ไฮเบล ที่กล่าวว่า …
“The local church is the hope of the world.” -Bill Hybels-
(คริสตจักรท้องถิ่นคือความหวังของโลก!)
ดังนั้น ขอให้คริสตจักรของเราไม่เพียงแต่เป็นคริสตจักรที่มีผู้สนใจ ผู้เชื่อ หรือสมาชิกที่มาโบสถ์เฉพาะแค่วันอาทิตย์ (ทั้งที่สม่ำเสมอและไม่สม่ำเสมอ) เพราะนี่เป็นแค่ภาพลวงตา!
ตราบใดที่คริสตจักรไม่ได้มีสมาชิกเป็นสาวกแท้ของพระคริสต์เป็นพื้นฐานอันเป็นองค์ประกอบสำคัญ ตราบนั้นคริสตจักรนั้นก็ยังไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นความหวังของโลกนี้!
หน้าที่หลักของคริสตจักรก็คือ ต้องสร้างผู้เชื่อและสมาชิกทุกคนให้เป็นสาวกแท้ของพระคริสต์!
และสาวกแท้ทุกคนต้องมีรากฐานสำคัญในชีวิต นั่นคือ มีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องและลึกซึ้งกับพระเจ้า และกับซึ่งกันและกัน!
ดังคำกล่าวที่ว่า…
“Discipleship is Relationship” (การเป็นสาวกคือ สัมพันธภาพ)
การที่สมาชิกมาคริสตจักรบ้าง ไม่มาบ้าง หรือมาประจำ แต่ไม่มีความสัมพันธ์กับพระเจ้าและกับกันและกันอย่างแท้จริงสม่ำเสมอ นั่นไม่ใช่คริสตจักรอย่างที่พระคริสต์ประสงค์!
คนที่เป็นสมาชิกคริสตจักรจึงต้องเป็นสาวกที่ติดตามพระคริสต์ โดยให้พระคริสต์มาก่อนสิ่งใด ๆ ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว อาชีพ หรือธุรกิจการงาน ความฝัน อุดมการณ์ ความสนุกสนาน ฐานะตำแหน่ง ทรัพย์สินเงินทอง หรือความมั่นคงใด ๆ ในชีวิต เพราะว่าหากมีสิ่งใดมาก่อนพระคริสต์ สิ่งนั้นก็คือ รูปเคารพ!
และผู้ใดมี “รูปเคารพ” ในชีวิตมาแทนที่พระคริสต์ และยังหวังว่า พระเจ้าจะทรงอวยพรเขาต่อไป ก็ต้องบอกว่า นั่น นับเป็นการหลอกลวงตัวเองอย่างน่าสงสาร!
พระคริสต์ธรรมคัมภีร์ ย้ำว่า ลักษณะเด่นชัดของสาวกของพระคริสต์ก็คือ การเชื่อฟังและการทำตามที่พระองค์ทรงบัญชาอย่างกระตือรือร้น ภาพที่เราเห็นชัดของการเป็นสาวกแท้ปรากฏชัดใน กิจการ บทที่ 2 ที่พรรณนาถึงเหตุการณ์ตอน
ที่ 1 คริสตจักรถือกำเนิดขึ้นพร้อมสาวกแท้
“คนทั้งหลายที่รับถ้อยคำของเปโตรก็รับบัพติศมา ในวันนั้นมีคนเข้าเป็นสาวกประมาณสามพันคน เขาทั้งหลายอุทิศตัวเพื่อฟังคำสอนของบรรดาอัครทูตและร่วมสามัคคีธรรมรวมทั้งหักขนมปังและอธิษฐาน” (กิจการ 2:41-42)
“คนทั้งหมดที่เชื่อถือก็อยู่รวมกัน และนำทุกสิ่งมารวมเป็นของกลาง และพวกเขาขายที่ดินและทรัพย์สิ่งของมาแบ่งให้แก่กันตามความจำเป็น ทุกๆ วัน พวกเขาอุทิศตัวอยู่ด้วยกันในพระวิหารและหักขนมปังตามบ้านของพวกเขา รับประทานอาหารร่วมกันด้วยความชื่นชมยินดีและจริงใจ ทั้งสรรเสริญพระเจ้าและได้รับความชื่นชอบจากทุกคน องค์พระผู้เป็นเจ้าก็โปรดให้คนทั้งหลายที่กำลังจะรอด เพิ่มจำนวนเข้ามามากยิ่งขึ้นทุกๆ วัน” (กิจการ 2:44-47)
ในเวลานี้ มีภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจเช่นนั้นปรากฏอยู่ในคริสตจักรของคุณอยู่หรือไม่?
แล้วคุณพร้อมจะสร้างตัวเองให้เป็นหนึ่งในบรรดาสาวกอย่างที่พระคริสต์ต้องการเช่นนี้หรือไม่?
และคุณจะเริ่มต้นจากอะไรก่อน?
…ขอตอบที!
ข้อคิดปิดท้าย
“การเป็นสาวกคือวินัยที่ต้องมีในแต่ละวัน เราต้องติดตามพระเยซูคริสต์แบบทีละก้าวและทีละวัน!”
(Discipleship is daily discipline; we follow Jesus a step at a time, a day at a time.) -Warren Wiersbe-
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer