เหตุฉะนั้นเมื่อเรามีพยานพรั่งพร้อมอยู่รอบข้างเช่นนี้แล้ว ก็ขอให้เราละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่ และบาปที่เกาะแน่น ขอให้เราวิ่งแข่งด้วยความเพียรพยายาม ตามที่ได้กำหนดไว้สำหรับเรา (ฮีบรู 12:1)
ผมเคยได้ยินเรื่องคอนเสิร์ตของนักไวโอลินชื่อดังท่านหนึ่ง มีคนถามเธอถึงเคล็ดลับในการขึ้นแสดงคอนเสิร์ตอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ เธอตอบว่า “วางแผนละทิ้ง – อะไรก็ตามที่ทำให้ฉันขาดการฝึกซ้อม หรือทำให้เล่นได้ไม่ดี ต้องละทิ้งให้หมด”
ผมคิดว่าพวกเราน่าจะใช้ “แผนละทิ้ง” บ้างในชีวิต เพราะมีเรื่องไร้สาระมากมายเกินกว่าที่เราจะนึกได้ ถ้าไม่เชื่อ ลองไปเยี่ยมตามบ้านเพื่อนๆสิ มันน่าทึ่งมากที่พวกเขาเก็บของสะสมไร้ประโยชน์ไว้มากมาย และนี่คือความจริงในชีวิตเรา เรารับเอาสิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามา พอเวลาผ่านไป เราก็รื้อของที่เยอะเกินมาเหล่านี้แล้วค่อยๆโละทิ้งหรือแจกจ่ายไป
เมื่อการแข่งขันในชีวิตเริ่มยากขึ้น เรามักโทษสถานการณ์ โทษคนอื่น หรือบางทีก็โทษพระเจ้า แต่เราต้องจำไว้ว่าถ้าเราสะดุดหรือล้มลง เป็นความผิดพลาดของเราเอง พระคัมภีร์กล่าวว่านี่คือสิ่งที่พระเจ้าประทาน “ฤทธิ์เดชของพระองค์ได้ให้สิ่งสารพัดแก่เรา ที่จะให้มีชีวิตและมีธรรม” (2เปโตร 1:3)
พระคัมภีร์ยังบอกให้เรา – ละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่ และบาปที่เกาะแน่น – สิ่งที่ทำให้เราเดินหน้าไปได้ยาก (ดูฮีบรู 12:1) ลองสังเกตความแตกต่าง : เราไม่เพียงแต่ต้องละทิ้งบาป แต่ต้องทิ้งสิ่งที่ถ่วงอยู่ด้วย
ผมขอแนะนำให้คุณถามตัวเองว่า “กิจวัตรที่ทำ หรือกิจกรรมใดที่ใช้เวลาเราไปจนหมด เป็นสิ่งที่ส่งเราโบยบินขึ้นฟ้า หรือถ่วงขาไม่ให้ขยับ?” พูดอีกแบบคือ มันช่วยให้เราวิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็ว หรือมันถ่วงให้วิ่งไปแทบไม่ได้?
ดาวิดมีความคิดที่ถูกต้องเมื่อท่านอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงค้นดูข้าพระองค์และทรงทราบ จิตใจของข้าพระองค์ ขอทรงลองข้าพระองค์และทรงทราบความคิดของข้าพระองค์ และทอดพระเนตรว่ามีทางชั่วใดๆ ในข้าพระองค์หรือไม่ และขอทรงนำข้าพระองค์ไปในมรรคานิรันดร์” (สดุดี 139:23-24)
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514