คนทั้งหลายที่กำลังจะพินาศก็เห็นว่าเรื่องกางเขนเป็นเรื่องโง่ แต่พวกเราที่กำลังจะรอดเห็นว่าเป็นฤทธานุภาพของพระเจ้า (1โครินธ์ 1:18)
มีเรื่องเล่ากันว่าสามีภรรยาคู่หนึ่งไปที่ร้านขายเครื่องเพชร เจ้าหน้าที่นำเครื่องประดับดีไซน์รูปกางเขนหลายแบบมาให้เลือก ภรรยาพูดขึ้นมาว่า “สวยๆทั้งนั้น ฉันชอบ แต่อยากได้แบบที่ไม่มีผู้ชายตัวเล็กๆติดอยู่ จะได้มั้ย?”
นี่คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่สมัยนี้ต้องการ – กางเขนที่ไม่มีพระเยซู – พวกเขาอยากได้กางเขนที่มองแล้วไม่ทำให้ขุ่นเคืองใจ ชอบแบบเท่ๆ เข้ากับเสื้อผ้าที่สวมใส่ แต่ถ้าเราย้อนเวลากลับไป เพื่อดูกางเขนในแบบดั้งเดิม เราจะรู้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของความทารุณโหดร้าย เป็นภาพเลวร้ายสุดจินตนาการ เมื่อเห็นใครบางคนถูกตรึงที่บนกางเขน
ชาวโรมันเลือกวิธีตรึงกางเขน เพราะเป็นวิธีประหารคนอย่างช้าๆ เป็นวิธีการตายที่ทุกข์ทรมานที่สุด ออกแบบมาเพื่อให้คนที่ถูกตรึงอับอายและไร้ศักดิ์ศรีที่สุด การนำคนไปตรึงกางเขนนอกเมืองที่โรมันปกครอง เป็นเหมือนเชือดไก่ให้ผ่ายที่ต่อต้านดู
ถ้ามีหนทางอื่นใด คุณคิดว่าพระเจ้าจะอนุญาตให้พระบุตรของพระองค์ทนทรมานขนาดนี้หรือ?
ถ้ามีหนทางอื่นที่ทำให้พวกเรารับการอภัยบาป พระเจ้าจะไม่ทรงใช้หรือ?
ถ้าการดำเนินชีวิตอย่างดีมีศีลธรรมช่วยให้เราได้ไปสวรรค์ พระเยซูคริสต์ก็คงไม่ต้องลงมาสิ้นพระชนม์อย่างทรมานบนไม้กางเขน แต่พระองค์ทรงยอม เพราะไม่มีทางอื่นใด พระองค์ต้องจ่ายราคาของความบาปแทนเราที่บนกางเขนนั้น ทรงซื้อความรอดให้กับโลกใบนี้
ถ้าคุณถูกล่อลวงให้สงสัยในความรักที่พระเจ้ามีต่อคุณ แม้แต่นิดเดียว ให้มองไปที่กางเชน ไม่ใช่ตะปูที่แขวนพระองค์ไว้บนกางเขน แต่เป็นความรักของพระองค์ครับ
โดย : Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย : Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000, Riverside, CA92514