สิ่งถูกต้องที่ต้องทำและสิ่งยากที่ต้องทำ มักเป็นสิ่งเดียวกัน!”
(The right thing to do and the hard thing to do are usually the same.) -Steve Maraboli-
ใคร ๆ ก็อยากจะทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่ไม่ค่อยมีใครอยากทำสิ่งที่ยาก!
…ดังนั้น จึงมีน้อยคนที่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องดังที่อยาก!
ตรงกันข้าม สิ่งที่ผิดกลับเป็นสิ่งที่ทำได้โดยง่าย อีกทั้งใคร ๆ เขาก็ทำกัน สิ่งที่ผิดจึงกลายเป็นสิ่งที่คนจำนวนมากรวมทั้งเราเลือกที่จะทำ! อย่างไรก็ตาม คนที่เชื่อศรัทธาในพระเจ้าจะมีทัศนคติที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ อย่างเช่น ในกรณี ค่านิยมที่ว่า “ใคร ๆ เขาก็ทำกัน” หากสิ่งที่กล่าวถึงนั้นคือ “สิ่งดี” ที่ใคร ๆ เขาทำกัน เราก็ควรร่วมกับพวกเขาในการกระทำสิ่งนั้นด้วย แต่หากว่า สิ่งที่ “ใคร ๆ เขาก็ทำกัน” นั้นเป็น “สิ่งที่ไม่ดี” เป็นสิ่งผิดหรือเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงห้ามหรือรังเกียจ เราคงต้องยึดคติที่ดีกว่านั้นคือ “ฉันจะไม่ทำสิ่งไม่ดีนี้ที่ใคร ๆ เขาก็ทำกัน แต่ฉันจะทำสิ่งที่ดีที่แม้ว่าใครๆ เขาจะไม่ทำกัน!”
ตัวอย่าง คนเราเวลาถูกปฏิบัติอย่างไม่ดีเขามักเลือกใช้มาตรการตอบโต้แบบ “ตาแทนตา ฟันแทนฟัน” ในเชิงลบแบบที่ “ใคร ๆ เขาก็ทำกัน!” แต่เราผู้ที่ศรัทธาในพระคริสต์จะขอเลือกใช้มาตรการเชิงบวกตอบสนองแทน อาทิ หากเรา
“ถูกตบแก้มซ้ายให้ย้ายแก้มขวาให้ด้วย” หรือ
“ถูกฟ้องปรับเอาเสื้อในไป ก็จะแถมเสื้อนอกให้อีก” หรือ
“ถูกเกณฑ์ให้แบกของหนักเดินไป 1 กิโลเมตร ก็จะแถมให้อีก 2 กิโลเมตร”
“อีกประการหนึ่งท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้แก่คนในสมัยก่อนว่า‘ห้ามเสียคำสัตย์สาบาน คำสัตย์สาบานที่ได้ถวายต่อองค์พระผู้เป็นเจ้านั้น ต้องรักษาไว้ให้มั่น’ ส่วนเราบอกพวกท่านว่า อย่าสาบานเลยไม่ว่าจะทำโดยอ้างถึงสวรรค์ เพราะสวรรค์เป็นที่ประทับของพระเจ้า หรืออ้างถึงแผ่นดินโลก เพราะแผ่นดินโลกเป็นที่รองพระบาทของพระเจ้า หรืออ้างถึงกรุงเยรูซาเล็ม เพราะกรุงเยรูซาเล็มเป็นราชธานีของพระมหากษัตริย์ อย่าสาบานโดยอ้างถึงศีรษะของตน เพราะท่านจะทำให้ผมขาว หรือดำไปสักเส้นหนึ่งก็ไม่ได้ จริงก็จงว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่ คำพูดที่เกินกว่านี้มาจากความชั่ว“ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า‘ตาแทนตา และฟันแทนฟัน’ส่วนเราบอกพวกท่านว่า อย่าต่อสู้คนชั่ว ถ้าใครตบแก้มขวาของท่านก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย ถ้าใครต้องการจะฟ้องศาล เพื่อจะปรับเอาเสื้อของท่านไป ก็จงสละเสื้อคลุมให้เขาด้วย ถ้าใครจะเกณฑ์ท่านให้เดินทางไปหนึ่งกิโลเมตร ก็ให้เลยไปกับเขาถึงสองกิโลเมตร ถ้าเขาจะขอสิ่งใดจากท่าน ก็จงให้ อย่าเมินหน้าจากผู้ที่ต้องการขอยืมจากท่าน” (มัทธิว 5:33-42)
หรือ ทัศนคติของคนทั่วไปบอกว่า “ให้รักเพื่อนแต่เกลียดศัตรู” แต่ทัศนคติที่เราควรมีในการตอบสนองที่ถูกต้องในสายพระเนตรของพระเจ้าที่ดูเหมือนยากก็คือ …
“แม้ใคร ๆ จะเกลียดศัตรูของเขา แต่เราจะรักศัตรูของเรา และอธิษฐานอวยพรพวกเขา!”
“ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า‘จงรักเพื่อนบ้านของท่านและเกลียดชังศัตรูของท่าน’ แต่เราบอกพวกท่านว่า จงรักศัตรูของท่าน และจงอธิษฐานเพื่อบรรดาคนที่ข่มเหงพวกท่าน” (มัทธิว 5:43-44)
หรือแม้แต่ทัศนคติเรื่องการทำทานที่ “ใคร ๆ เขาก็ทำทานและประกาศให้รู้กันโดยทั่ว”
แต่เราเลือกที่จะทำตรงกันข้าม นั่นคือ … “เราจะทำทาน หรือทำดี แต่เป็นทาน(ความดี)ลับ โดยที่ไม่ต้องให้ใครรู้!”
“จงระวัง อย่าทำศาสนกิจเพื่ออวดคนอื่น ถ้าทำอย่างนั้นท่านทั้งหลายจะไม่ได้รับบำเหน็จจากพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ “เพราะฉะนั้น เมื่อท่านทำทานอย่าเป่าแตรข้างหน้า เหมือนพวกคนหน้าซื่อใจคด ที่ทำในธรรมศาลาและตามถนน เพื่อให้คนสรรเสริญ เราบอกความจริงแก่พวกท่านว่า พวกเขาได้รับบำเหน็จของพวกเขาแล้ว แต่ท่านเมื่อทำทาน อย่าให้มือซ้ายรู้การกระทำของมือขวา เพื่อว่าทานของท่านจะเป็นทานลับ และพระบิดาของท่านผู้ทรงเห็นในที่ลี้ลับ จะประทานบำเหน็จแก่ท่าน” (มัทธิว 6:1-4)
…พี่น้องที่รัก ในท้ายนี้ขอให้เราตระหนักอยู่เสมอว่า สิ่งที่ดีและสิ่งที่ยากนั้น มักเป็นสิ่งเดียวกันที่เราต้องทำ!
แต่นั่นเป็นสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัยและจะนำความพึงพอใจมาสู่คนมากหลายในภายหลัง!
ดังนั้น ในวันนี้ขอให้เราพึ่งอาศัยความรักของพระคริสต์ที่ไม่จำกัดและลงมือทำสิ่งดีและที่ยากนั้นตั้งแต่บัดนี้เลย !
…จะดีไหมครับ?
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์–
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/ lifeanswer,